การแข่งขันกรีฑา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่มีดิงห์ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ไฮไลต์อยู่ที่วิ่ง 100 เมตร ชาย ซึ่ง “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มดาวรุ่งวัย 16 ปี ที่เก็บไปแล้ว 2 เหรียญทองให้ทัพนักกรีฑาไทย พร้อมทำลายสถิติทั้งใน วิ่ง 200 เมตร และผลัด 4×100 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึง สรอรรถ ดาบบัง อีกหนึ่งนักวิ่งไทยหลังจาก “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มดาวรุ่งวัย 16 ปี จากสมุทรปราการ พังสถิติวิ่ง 200 เมตร ชาย ในการแข่งขันซีเกมส์ ลงได้ถึง 2 ครั้ง ในรายการเดียวโดยในรอบคัดเลือก วิ่งทำเวลา 20.41 วินาที ทำลายสถิติซีเกมส์เดิมของรุ่นพี่ เหรียญชัย สีหะวงษ์ ซึ่งเคยทำไว้ด้วยเวลา 20.69 วินาที ที่ประเทศบรูไน ปี 2542 หรือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ขณะที่ในรอบชิงชนะเลิศ ก็ทำลายสถิติของตัวเองลงได้อีกครั้ง หลังจากวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 20.37 วินาที คว้าเหรียญทองไปครองได้อย่างยอดเยี่ยม
จริงๆแล้วเกมนี้ เราอาจจะบอกได้ว่าเป็นมากกว่าการแข่งขันในอาเซียนด้วยซ้ำ เพราะ ไทย กับ เวียดนาม เป็นสองชาติที่ ไปเล่นในเวิลด์คัพ มาแล้ว เพราะฉะนั้นเกมนี้ก็ไม่ต่างจากการเล่นใน เวิลด์คัพ เลยทีเดียว และก็แน่นอนการที่เรามาเล่นในบ้านเขา ผ่านสถานการณ์คับขัน กดดัน นอกเหนือจากเแชมป์ที่เรารักษาได้ มันจะเป็นคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาฟุตซอลไทยทุกคนจริงๆ ที่ได้ผ่านสมรภูมิในลักษณะนี้ วันนี้ทุกคนได้แสดงให้เห็นว่าเรามีบุคคลากร มีวิธีการเล่น มีระบบทีมที่ยังยืนเป็นหนึ่งในอาเซียนได้ สถานีต่อไปก็คงเป็นชิงแชมป์เอเชีย ที่เราจะต้องกลับไปเข้มข้นมากกว่าเดิมส่วนคำถามที่ว่ากังวลหรือไม่ที่ ไทย ไม่สามารถเอาชนะอินโดนีเซียมา 3 เกมติดแล้ว ทั้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2 นัด และซีเกมส์ ครั้งนี้ อีก 1 นัดบิ๊กป๋อม กล่าวว่า เราไม่ค่อยกังวลใดๆกับอินโดนีเซีย เพราะรู้ว่าในอาเซียน ขณะนี้ทุกทีมก็อาจจะยกระดับขึ้นมา เราเองที่ผ่านมาได้ใช้ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน หรือซีเกมส์ ในการให้โอกาสเด็กเรา ตอนนี้เรารู้แล้วว่านักกีฬาเราคนไหนไปต่อได้ ในเอเชีย แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าในการแข่งขันที่ผ่านมาเราสอบผ่าน
คนอื่นที่น่าสนใจ ไทเกอร์ วูดส์ โปรชื่อดังอดีตมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน อยู่อันดับ 99 (4 โอเวอร์พาร์ 74) “โปรเพชร”สดมภ์ แก้วกาญจนา ตัวแทนของไทยหนึ่งเดียวในรายการนี้ อยู่อันดับ 114 (5 โอเวอร์พาร์ 75)นาที 69 ฟิลิป คอสติช ได้บอลทางกราบซ้าย ก่อนเปิดบอลพุ่งต่ำมาหน้าประตูเหมือนไม่อันตรายมาก แต่แนวรับเรนเจอร์สกลับปล่อยให้หลุดถึง ราฟาเอล บอร์รา ปราดเข้าชาร์จไม่เหลือ แฟรงก์เฟิร์ตตีเสมอ 1-1นาที 80 แฟรงก์เฟิร์ตได้ฟรีคิกบริเวณเกือบครึ่งสนาม ฟิลิป คอสติช เตะเปิดมาหน้าประตูแล้วเลยผู้เล่นไปหมด แต่บอลตกพื้นแล้วเด้งทางดีตรงหากรอบประตู อัลลัน แม็กเกรเกอร์ ตัดสินใจปัดทิ้งเพื่อความปลอดภัย หมดเวลา 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษช่วงต่อเวลานาที 106 เรนเจอร์สได้ลุ้นเล็กๆ บอร์นา บาริซิช ลองยิงจากนอกเขตโทษแล้วบอลพุ่งค่อนข้างน่ากลัว แต่ไปตรงตัว เควิน ทรัปป์ เลยโดนทุบทิ้งนาที 118 เป็นฝั่งเรนเจอร์สที่น่าได้ประตูชัยสุดๆ เคมาร์ รูฟ สปีดตามไปถึงบอลทางด้านขวาของเขตโทษ แล้วตบเข้ากลางให้ ไรอัน เคนต์ เข้าชาร์จเหน่งๆ เควิน ทรัปป์ เซฟได้เหลือเชื่อ หมดเวลา 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษปรากฏว่าฝั่งแฟรงก์เฟิร์ตซัดเข้าหมด 5 คน ส่วนเรนเจอร์สพลาดที่ อารอน แรมซีย์ ยิงติดเซฟนายทวาร “อินทรีแดงดำ” จึงชนะไป 5-4 คว้าแชมป์ยุโรปหนแรกในรอบ 42 ปี นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ซิวแชมป์รายการนี้ สมัยยังเป็นชื่อยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาล 1979-80
ขณะที่ วิคเตอร์ อเซลเซ่น นักแบดมินตันชายเดี่ยว มือ 1 ของโลกชาวเดนมาร์ก ที่มีโปรแกรมจะต้องลงแข่งขันรอบ 16 คนสุดท้ายกับ โคเดอิ นาราโอกะ หนุ่มญี่ปุ่น มืออันดับ 48 ของโลก แต่ก่อนจะลงแข่งขัน วิคเตอร์ ได้แจ้งขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ หลังประสบอุบัติเหตุลื่นล้มที่สนาม ในการแข่งขันรายการ โธมัสอูเบอร์ คัพ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ นาราโอกะ ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายแบบไม่ต้องออกแรงผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศปรากฏว่า พาณิภัค เล่นได้อย่างสมศักศรีเหรียญทองโอลิมปิก เอาชนะไป 29-0 คะแนน คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์สมัยที่ 3 ของตัวเองได้สำเร็จตามความคาดหมาย