ผลปรากฎว่า ภูริพล ที่แม้จะออกตัวไม่ดีนัก แต่มาเร่งความเร็วแซงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 10.44 วินาที คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ขณะที่ สรอรรถ ดาบบัง คว้าเหรียญเงินไปครองด้วยสถิติ 10.55 วินาทีขณะที่รุ่นไม่เกิน 63 กก. ชาย “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล และเหรียญทองซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย ที่เพิ่งหายเจ็บในรอบ 2 ปีลงแข่งขันรายการที่ 2 ต่อจากสแปนิช โอเพ่น เมื่อเดือนมีนาคม โดยได้บายผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศดวลกับ มูฮัมหมัด ไรฮาน บุสซัม จากอินโดนีเซีย ผลปรากฏว่า เทวินทร์ พ่ายหวิวไป 15-17 ชวดโอกาสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ยังได้เหรียญทองแดงปลอบใจหลังจบการแข่งขัน เทวินทร์ เผยว่า เสียดาย แต่ก็เต็มที่แล้ว เพราะก่อนมารู้ตัวเองว่าไม่ได้เต็มร้อย สภาพแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่อยากมาทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ที่สุด ซึ่งจริงๆหายจากการรักษาอาการบาดเจ็บมาราว 2 ปี แต่ล่าสุดเพิ่งกลับมาจากการไปแข่งขันรายการที่สเปนแล้วเกิดอาการเข่าบิด กักฟันรักษาเพื่อให้หายทันมาซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้
“จะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเภทกีฬาสากลนักกีฬาจากประเทศไทยทำผลงานได้ดี เช่น กรีฑา มีนักกีฬารุ่นใหม่ๆ สามารถทำลายสถิติหลายรายการ ส่วนกีฬาเทเบิลเทนนิส ทำผลงานได้มากกว่าเป้าหมาย กีฬาบาสเกตบอลได้เหรียญทองที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง กีฬาว่ายน้ำครั้งนี้มีหลายเหรียญทองติดไม้ติดมือกลับมา กีฬายิมนาสติกสามารถแบ่งเหรียญจากชาติอาเซียนมาได้ แบดมินตันยังทำผลงานได้ตามเป้าหมาย”
ทีมตบหนุ่มไทยลงสนามพบ กัมพูชา ซึ่งปรากฏว่า กัมพูชา ปิดเซตขึ้นนำก่อน 2-0 แต่หนุ่มไทยสวมหัวใจนักสู้ตบเอาชนะ 3 เซตรวด แซงกลับมาคว้าชัย 3-2 เซต 22-25, 20-25, 25-22, 25-20, 15-11ลีก เอิง ฝรั่งเศสอองเชร์ 2-0 มงต์เปลลิเยร์แบรสต์ 2-4 บอร์กโดซ์แกลร์กมงต์ 1-2 โอลิมปิก ลียงล็องส์ 2-2 โมนาโกลีลล์ 2-2 แรนส์ลอริยองต์ 1-1 ทรัวส์โอลิมปิก มาร์กเซย 4-0 สตราส์บูร์กน็องต์ 1-1 แซงต์-เอเตียนปารีส แซงต์ แชร์กแมง 5-0 เม็ตซ์
ด้านประเภทคู่ผสม บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ ทรัพย์ศิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 1 ของโลก เอาชนะ เคียวเฮอิ ยามาชิตะ กับ นารุ ชิโนย่า คู่มือ 33 ของโลกจากญี่ปุ่น ได้อย่างเด็ดขาด 2เกมรวด 21-15, 21-18 ใช้เวลา 37นาที ทำให้คู่ผสมไทยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทันที โดยจะไปเจอกับคู่ หวัง ยี่ ลู่ กับ หวง ดอง ปิง คู่ผสมมือ 4 โลกจากจีน เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่เอาชนะคู่ผสมชาวไทยอย่าง สุภัค จอมเกาะ กับ ศุภิสรา เพียวสามพราน มา 2-0 เกม 21-16 และ 21-15นาที 115 โอกาสเป็นของไฟรบวร์กอีกครั้ง บอลกระดอนมาหา ยานิก ฮาเบเรอร์ ซัดเต็มหลังเท้าจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งไปชนคานเต็มๆนาที 117 ดานี โอลโม พยายามกระชากบอลผ่าน นิโคลัส ฮอฟเลอร์ ในเขตโทษ แล้วโดนฮอฟเลอร์เสียบล้มลง ผู้ตัดสินจึงต้องเรียกดูวีเออาร์ แต่ระหว่างนั้น เควิน คัมเปิล ที่อยู่ม้านั่งสำรองของไลป์ซิก ก็โดนใบแดงไล่ออกจากข้างสนามหลังประท้วงเกินเหตุผลการดูวีเออาร์ปรากฏว่าผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่ไฟรบวร์ก ทำให้เกมดำเนินต่อไปจนครบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 เช่นเดิม ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษปรากฏว่าไลป์ซิกที่ยิง 4 คน ไม่มีพลาดเลย ด้านไฟรบวร์กพลาดถึง 2 คน คริสเตียน กุนเตอร์ ยิงข้ามคาน และออร์เดมิน เดมิโรวิช ยิงไปชนคาน ไลป์ซิกจึงชนะ 4-2