อาร์เซน่อล เปลี่ยนทีม 7 ตำแหน่งจากเกมลีกที่พ่ายต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยแนวรุกใช้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เล่นร่วมกับ ฟาบิโอ วิเอร่า และ มาร์กินญอส"พวกเรามีความสุขที่สามารถคว้า 3 คะแนนมาครอง สัปดาห์หน้าเป็นเกมที่สำคัญ พวกเรากำลังตั้งตารอคอยเกมนั้นอย่างจริงจัง และมีแรงผลักดันอย่างมาก ชัยชนะวันนี้ทำให้พวกเราเรียกคืนความมั่นใจกลับมาได้บ้าง"
บาร์เซโลน่า พยายามหาทางจำกัดนักเตะหลายคนออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อแก้ปัญหาทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพนิยายของ เฟรงกี้ ที่ให้สโมสรถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างกรณีที่ไม่ปฏิบัติต่อนักเตะตามสัญญา หลังถูกกล่าวหาว่ารังแกผู้เล่นโดยพยายามบีบให้มิดฟิลด์ชาวดัตช์ย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' หากไม่ยินยอมลดค่าจ้างตามความต้องการของสโมสร แม้กระทั่งการขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมาย
"กวาร์ดิโอล่า เขาค่อนข้างบ้าคลั่ง และผมก็ชอบแบบนั้น มันจะต้องสนุกแน่ๆ มันเพิ่งผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นผมจึงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก แต่ผมซ้อมได้ดี และผมก็พร้อมสำหรับเกมต่อไป"โบรโซวิช เป็นกำลังสำคัญของทัพ "งูใญ่" มาหลายปีนับตั้งแต่ย้ามาจาก ดินาโม ซาเกร็บ ในปี 2015 โดยลงเล่นไปแล้ว 250 นัดนัดจากทุกรายการ และเพิ่งเซ็นสัญญาใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ยังข้อผูกมัดกับสโมสรจนถึงปี 2026
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีผลงานที่ร้อนแรงหลังชนะติดต่อกัน 5 นัดหลังสุด โดยนัดล่าสุดในรายการนี้ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม แอร์เบ ไลป์ซิก แบบเละเทะด้วยสกอร์ 7-0 มีสกอร์รวม 2 ยก 8-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างง่ายดาย ด้านเกมลีกก็เพิ่งบุกชนะเบรนท์ฟอร์ด 1-4 ทำให้โอกาสไม่แพ้ในเกมนี้มีค่อนข้างสูง เกมนี้ทัพ “เรือใบสีฟ้า” จะขาดเพียง ฟิล โฟเด้น ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากการผ่าตัดไส้ติ่ง ส่วนนนักเตะที่เหลือมีความพร้อมเต็มร้อย แต่เกมนี้ เป๊ป กวาดิโอล่า อาจมีการปรับเปลี่ยน โดย แบร์นาโด้ ซิลวา ที่ได้เล่นเต็มเกมทั้ง 2 นัดกับ ไลป์ซิก ในรอบที่แล้วอาขได้ลงเป็นตัวจริงแทน ริยาด มาห์เรซ เกมรุกยังใช้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่หายเจ็บและกลับมายิง 2 ประตูในเกมล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์เรนเจอร์ส แพ้คาบ้านต่อ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-3 เป็นการแพ้ 6 เกมรวดในรอบแบ่งกลุ่ม ทำลายสถิติย่ำแย่ที่สุดไปเรียบร้อย จากการไม่มีคะแนน และติดลบมากถึง 20 ประตู