ขณะที่เหรียญทองแดง เป็นของ ชาเนลล์ ฟาน เหวียน จากเวียดนาม และ อเล็กซานดร้า เอล่า จากฟิลิปปินส์ โดยหลังจบการแข่งขัน ลักษิกา และ อัญชิสา ได้ไหว้ขอบคุณผู้ชมในสนามเทนนิสด้วยด้าน นายไทยทนุ วรรณสุข เลขาธิการสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย และผู้จัดการทีมซีเกมส์ กล่าวว่า สำหรับเหรียญทองจากประเภทหญิงเดี่ยว นับเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมเทนนิสไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ หลังจากได้มาแล้ว 2 เหรียญทองจากประเภททีมชายและทีมหญิง รวมทั้ง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง จากประเภทคู่ผสม โดย 3 เหรียญทองดังกล่าว ถือเป็นผลงานที่เกินเป้า ซึ่งก่อนการแข่งขัน สมาคมฯ ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 2 เหรียญทองเป็นอย่างน้อย นอกจากนี้ยังได้อีก 1 เหรียญทองจากประเภทหญิงคู่ ซึ่งนักเทนนิสไทยผ่านเข้าชิงชนะเลิศกันเองถือว่าเป็นความสำเร็จที่ต้องให้เครดิตและยกย่องชมเชยกับผู้บริหารสโมสรทุกท่าน นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานสโมสร, นายวรวีร์ มะกูดี ประธานบริหาร, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตประธานสโมสร ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ ร่วมกับทีมโค้ช
ขณะที่ดับเบิลยูทีเอเผยว่า “ดับเบิลยูทีเอรู้สึกลำบากใจที่ต้องเลือกไม่ให้คะแนนการจัดอันดับโลกสำหรับวิมเบิลดันในปีนี้ เรามีจุดยืนที่จะปกป้องโอกาสอันเท่าเทียมกัน ผู้เล่นควรได้แข่งขันในฐานะปัจเจกบุคคล”
“ตั้งใจว่าจะเอาเหรียญทองนี้มอบให้กับแปฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา ส่วนเป้าหมายต่อไปคือการแข่งขันชิงแชมป์โลก ปลายปีนี้ ซึ่งจากนี้ไปก็ต้องกลับไปซ้อมหนักต่อไป”คู่สามหญิงเดี่ยว พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ เอาชนะ นูร์ อินสยีราห์ ข่าน 2-0 เกม 21-15, 23-21 โดยไทยผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับอินโดนีเซีย ที่ชนะเวียดนาม 3-1 คู่ส่วนทีมชายหืดจับกว่าจะเฉือนชนะอินโดนีเซีย 3-2 คู่ เริ่มจากคู่แรกชายเดี่ยว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชนะ ชิโก ออรา ดวี วาร์โดโย 2-0 เกม 21-14, 21-14
ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์ อดีตนักมวยแชมป์โลกชาวอเมริกัน ขึ้นชกไฟต์พิเศษที่นครดูไบ กับ ดอน มัวร์ ก่อนจบการแข่งขัน 8 ยกด้วยผลเสมอ พร้อมยังครองสถิติไร้พ่ายต่อไปหากนับเฉพาะการเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ 5 ครั้ง ไทยเอาชนะได้ 4 ครั้ง ในปี 1995 ที่จ.เชียงใหม่, ปี 1999 ที่บรูไน, ปี 2003 ที่เวียดนาม และปี 2005 ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนเวียดนาม คว้าเหรียญทองได้ 1 ครั้งในปี 1959 ที่กรุงเทพฯ