ครึ่งแรก เจ้าถิ่นได้เสียวก่อนจากลูกโยนของ มัตเตโอ โปลิตาโน่ มาเข้าศีรษะ กาลิดู กูลิบาลี่ โหม่งกลางเขตโทษ ลูกพุ่งจะเสียบมุมบนประตูขวามืออยู่รอมร่อ เดชะบุญ มาร์โก ซิลเวสตรี นายด่านทีมเยือน ยังป้องกันเอาไว้ได้ทันท่วงทีในนาทีที่ 13"ผมจะคิดถึงทุกๆอย่าง เพื่อนร่วมทีม สโมสร แฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอล ผมรักแฟนๆ พวกเขาสนับสนุนอย่างมากตลอดแปดปีที่ผ่านมา ผมภูมิใจในสิ่งที่เราประสบความสำเร็จร่วมกันที่นี่ สำหรับทุกสิ่งที่สโมสรทำเพื่อผมและครอบครัว ผมมีความสุขมาก"
"พวกเรามีโอกาสในกรอบเขตโทษมากมาย แต่ อันซู ฟาตี พลาดโอกาสทำสกอร์ 2-2 และ เรอัล มาดริด ป้องกันได้ดีมากๆ ก่อนที่พวกเขาจะได้จุดโทษ มันเป็นเรื่องที่รับได้ยากจริงๆ
แต่แล้วนาทีที่ 82 อัล นาสเซอร์ ก็มาออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะแอสซิสต์ที่ไม่ได้ตั้งใจของ โรนัลโด้ เมื่อบอลกระดอนจากเขาไปถึง อับดุลลาห์ มาดู ยิงด้วยซ้ายเสียบตาข่ายเข้าไป แม้จะมีการเช็กวีเออาร์อยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินให้ลูกนี้ได้ประตู"เขาต้องเข้าใจว่าโอกาสในการลงเล่นจะถูกจำกัดที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้" วัลค็อตต์ กล่าวผ่าน ทอล์คสปอร์ต
'ทุกอย่างที่นั่นดี ผมมีความสุขมากกับทุกอย่าง ผมมีแต่ความทรงจำที่ดี (จาก บาร์เซโลน่า)' เบรธเวต กล่าวถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับทีมอาซูลกราน่าคืนนี้ แมนฯซิตี้ จะเปิดบ้านรับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลก 2 โดยเลกแรกเสมอกันมา 1-1 เป้าหมายเดียวของทัพเรือใบสีฟ้า คือชนะในบ้านเพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไปให้ได้ สู่เส้นทางลุ้นถ้วยใหญ่ยุโรปสมัยแรก ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ก่อนเกม “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” กุนซือซิตี้ ยอมรับว่าอนาคตของเขากับทีม อาจถูกตัดสินด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ เพราะเป็นถ้วยเดียวที่ เป๊ป ยังไปไม่ถึงฝันตลอดเกือบ 7 ปีกับ แมนฯซิตี้