ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ศูนย์หน้าจากสมุทรปราการ ซิตี้ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจเหมือนครั้งแรกที่มีชื่อติดทีมชาติไทย ดีใจที่กลับมามีชื่ออีกครั้ง ถึงตอนนี้โค้ชมาโน โพลกิง ยังไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ”ด้านการแข่งขันพูล 10 ลูกเดี่ยวชายเวลา 10.00 น. สุภัทร วัฒนาวรรณะ (ปาร์ค เตาปูน) พบ ชาริค ซาเยด (สิงคโปร์) ต้องต้องดวลตัดสินกันถึงเกมที่ 17 หลังเสมอกัน 8-8 โดยทางปาร์ค เตาปูนมีโอกาสทไเกมก่อนแต่แทงไม่ลงเลนถูกสิงคโปร์เก็บทีละลูกจนถึงลก 10 เอาชนะไป 8-7 แร็กส่วนพูล 10 ลูกเดี่ยวหญิง แข่งเวลา 14.00 น. เพ็ญนิภา นาคจุ้ย (น้ำ พัทยา) พบธิ ง็อก เหวียน จากเวียดนาม ในรอบ 8 คนปรากฎว่า นักกีฬาพูลสาวากเวียดนามแทงนำ น้ำ พัทยา 4-1 แร็ก และ 5-3 แร็ก ก่อนที่ น้ำ พัทยา จะเริ่มควบคุมสมาธิค่อยๆบรรจงแทงจนเป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บทีเดียวถึง 4 เกมเอาชนะ ธิ ง็อก เหวียน ไป 7-5 แร็ก ท่ามกลางเสียงดีใจจากกองเชียร์ไทยส่งผลให้ น้ำ พัทยา การันตีคว้าเหรียญทองแดงให้กับทัพคิวไทยเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ สันทินี ใจซื่อกุล (นัท สระบุรี) พบ ซวน หวัง บุย (เวียดนาม) รอบ 8 คน ชนะก็จะได้เหรียญทองแดงทันที แต่นัท สระบุรี สู้ไม่ได้พ่ายไป 7-2 แร็ก
การแข่งขันกรีฑา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่มีดิงห์ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ไฮไลต์อยู่ที่วิ่ง 100 เมตร ชาย ซึ่ง “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มดาวรุ่งวัย 16 ปี ที่เก็บไปแล้ว 2 เหรียญทองให้ทัพนักกรีฑาไทย พร้อมทำลายสถิติทั้งใน วิ่ง 200 เมตร และผลัด 4×100 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึง สรอรรถ ดาบบัง อีกหนึ่งนักวิ่งไทย
ส่วน 1 เหรียญเงิน ได้มาจากเรือแคนู 4 คนชาย ระยะ 500 เมตร ที่ประกอบไปด้วย มงคลชัย สีส่อง, จ่าเอก วิทยา ห้องแก้ว, สิบตำรวจโท ปิยวัฒน์ ไชยทอง และพิตรพิบูล มหาวัฒนางกุล โดยพายเข้าที่ 2 ด้วยเวลา 01:41.745 นาทีโดยอุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นในห้องแต่งตัว “มาดามแป้ง” ไปถูกศอกของกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ซึ่งระหว่างแข่งขัน มาดามแป้ง ที่แม้จะรู้สึกเจ็บแต่ก็ยังนั่งเป็นกำลังใจให้กับเหล่านักเตะอยู่ข้างสนาม กระทั่งจบเกม อาการเริ่มหนักขึ้น จึงให้แพทย์มาตรวจเช็ก ก็พบว่าอาจต้องเอกซเรย์ด่วน หรือบินกลับเมืองไทย เพื่อรักษา
จบการแข่งขันรอบแรกแบ่งกลุ่ม พบกันหมด กลุ่มบี ทีมชาติไทยเป็นอันดับ 1 ชนะ 2 นัดรวด มี 5 แต้ม ขณะที่ กัมพูชา อันดับ 2 กลุ่ม ชนะ 1 แพ้ 1 มี 4 แต้ม กอดคอกันผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเกมผ่าน 60 นาที ทีมชาติไทยเริ่มครองบอลได้มากกว่าแต่ยังพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายของอินโดนีเซียไม่ได้เนื่องจากนักเตะอิเหนาหันมาเล่นเกมรับลึกหน้าปากประตูตัวเอง นาที 78 อินโดนีเซียได้ตอบโต้บ้างจากลูกเตะมุม ริซกี รามัดฮานี ได้โหม่งเต็มหัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ต้องปัดออกหลังช่วงท้ายเกมนาที 89 ไทยได้ลุ้นจากการยิงไกลของเอกนิษฐ์ ปัญญา บอลพุ่งชนคานกระดอนออกมา และถัดมาอีกไม่กี่อึดใจ พาตริก กุสสตาฟส์สัน กองหน้าตัวสำรองได้โหม่งในกรอบเขตโทษบอลหลุดออกหลัง จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มครบ 90 นาทียัง 0-0 ต้องลุ้นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษเข้าสู่การต่อเวลาพิเศษนาที 94 ทีมชาติไทยได้โอกาสลุ้นจากการที่ เบนจามิน เดวิส จ่ายให้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ หมุนตัวพลิกบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนตะบันเต็มข้อบอลพุ่งเข้าเสียบเสาแรกอย่างสวยงามพาขุนพลช้างศึกขึ้นนำก่อน 1-0ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังอินโดนีเซียพยายามสร้างเกมบุกหวังตีเสมอให้ได้แต่การขึ้นบอลไม่แม่นยำเท่าไหร่นักทำให้ไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกมไทยเฉือนอินโดนีเซีย 1-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก