สำหรับเกมนี้ไทย เลือก “ซ้ายสั่งตาย” ศิริวัฒน์ สาขา ลงเสิร์ฟ โดยมี จิระศักดิ์ ผักบัวเงิน ลงมายืนคู่หน้ากับ ภัทรพงษ์ ยุพดี และ “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงษ์ คำจันทร์ ยืนแบ็ก และ พรชัย เค้าแก้ว และ ศิริวัฒน์ สาขา สาขาเป็นสำรองเปิดฉากมาเซตแรกทีมไทยเน้นใช้ลูกเสิร์ฟโจมตีมาเลเซีย แต่ฝั่งเสือเหลืองไม่ยอมง่ายๆ อย่างไรก็ตามสุดท้ายไทยปิดเซตเอาชนะไปได้ 21-18 นำก่อน 1-0 เซตสำหรับ คูเลียก ถูกสหพันธ์ยิมนาสติกสากล สอบสวนทางวินัยจากกรณีที่เจ้าตัวสวมชุดที่มีตัวอักษร “แซด” สีขาวบนหน้าอกในพิธีรับเหรียญศึกยิมนาสติกศิลป์ชิงแชมป์โลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.
ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลังไปก่อนกลับมายิง 2 ประตูแซงชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ต่อลมหายใจลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จนเกมสุดท้าย
ไทม์ไทรอัลบุคลชาย ระยะทาง39.56 กิโลเมตร มีนักกีฬาลงแข่งขัน 14 คน ทีมไทยส่ง “มะตูม” พันจ่าอากาศโท พีระพล ชาวเชียงขวาง และ “น็อต” สิบตำรวจเอก ยุทธนา มะโน ลงชิงชัย ผลปรากฏว่า พีระพล ทำผลงานได้อย่างสุดยอด คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลา 48.32.404 นาที ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทัพนักปั่นไทย ส่วนเหรียญเงินเป็นของ เอแมน คาห์ยาดี จากอินโดนีเซีย 48.37.903 ชั่วโมง, เหรียญทองแดง มูฮัมหมัด นูร์ เอแมน รอสลี จากมาเลเซีย เวลา 48.58.547 ชั่วโมง ขณะที่ ยุทธนา ได้อับดับ 4 เวลา 49.18.304 นาที ส่งผลให้ทีมจักรยานถนนแข่งขัน 2 วันคว้าไปแล้ว 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เมื่อรวมกับผลงานของทีมเสือภูเขาเท่ากับได้เหรียญรางวัลไปแล้ว 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดงหลังการแข่งขัน จอชชัว เผยว่า ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานี้รู้สึกได้ถึงพลังงานที่ได้รับจากแฟนๆ มีคนส่งข้อความเข้ามาเยอะมาก รู้สึกขอบคุณ และเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยขอบคุณแฟนที่คอยให้กำลังใจสนับสนุนเราทั้งทีมมาโดยตลอด ส่วนการแข่งขันยู-20 ชิงแชมป์โลกนั้นยังไม่ได้วางแผนอะไรไว้ แต่อะไรที่สนุกก็จะทำด้าน “ใบพัน” ศิริพล พันแพ กล่าวว่า ดีใจมากๆ เพราะพวกเราแพ้เมื่อครั้งก่อน แล้ววันนี้มาเอาคืนได้ในบ้านของเวียดนามด้วย เมื่อ 3 ปีก่อนเราแพ้ แต่ครั้งนี้ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้ยิ้มอีกครั้ง ที่ผ่านมาเราซ้อมกันมาตลอด ตั้งใจและซ้อมกันหนักมาก วันนี้ถือว่าคุ้มแล้วที่ทำกันมา
สำหรับ มาเลเซีย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของฟุตบอลชายซีเกมส์ครั้งนี้ในฐานะรองแชมป์กลุ่มบี ด้วยการมี 8 คะแนนจาก 4 นัดโดยจะเข้าไปพบกับ เวียดนาม เจ้าภาพ และแชมป์เก่า วันที่ 19 พ.ค.ด้าน แอลล่า ต้องพบกับ เจนีธ หว่อง เจ้าของเหรียญทองแดงในประเภทบุคคลหญิง โดยสาวมาเลย์ ขึ้นนำที่หลุม 3 พาร์ 3 ก่อนที่ แอลล่า จะมาปลดได้ที่หลุม 5 และมาแซงนำที่หลุม 7 และถูกปลดอีกครั้งที่หลุม 10 แต่สะวิงสาวจากเชียงใหม่ มาขึ้นนำอีกครั้งที่หลุม 11 และรักษาความได้เปรียบนี้จนจบ 18 หลุม ทำแต้มให้ทีมไทยคว้าเหรียญทองด้วยการเอาชนะ มาเลเซีย 1.5-0.5 คะแนนจากชัยชนะดังกล่าวทำให้ ณัฐกฤตา คว้าเหรียญทองเป็นเหรียญทองที่ 2 ของตัวเองในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ ด้านการชิงอันดับ 3 ทีม ฟิลิปปินส์ มาเฉือนชนะ สิงค์โปร์ ในการเพลย์ออฟหลังเสมอกันที่ 1-1 คะแนน คว้าเหรียญทองแดงไปครอง