โบลต์ ถือเป็นยอดลมกรดที่ประสบความสำเร็จมากมาย หลังเป็นเจ้าของสถิติโลกทั้งในระบะ 100 เมตร และ200 เมตร รวมถึงคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาแล้วถึง 8 เหรียญ ก่อนเจ้าตัวจะประกาศอำลาวงการลู่วิ่งในปี 2017ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าตัวได้ก้าวเข้ามาสู่วงการกีฬาใหม่อีกชนิดอย่าง อีสปอร์ต โดยเข้ามาเป็นเจ้าของร่วมขององค์กรอีสปอร์ตจากไอร์แลนด์ อย่าง WYLDE ซึ่งมีทีมแข่งขันในหลายเกม ทั้ง Rainbow Six Siege, VALORANT, Rocket League และ FIFAโดยครั้งนี้เราทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญทั้ง ไทยลีก ที่ต้องการผลักดันแนวคิด Green ไทยลีก ไปยังการแข่งขัน นักกีฬา สโมสร และแฟนบอล รวมถึง WMS บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดขยะซึ่งทำงานร่วมกับโครงการคนไทยไร้ E-Waste อย่างต่อเนื่อง และได้นำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล พร้อมนำวัตถุดิบส่วนหนึ่งที่ได้มาเข้าสู่กระบวนการผลิตเหรียญรางวัลเกียรติยศดังกล่าว จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับวงการฟุตบอลไทยสู่การเดินหน้าอย่างยั่งยืน จากการมีส่วนร่วมของแฟนบอล และ ชุมชน โดย AIS พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างวงการฟุตบอลไทยในทุกมิติ ไม่เพียงการสานต่อภารกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่รวมไปถึงการนำ Digital Service และศักยภาพของโครงข่ายอัจฉริยะ 5G เข้ามายกระดับการแข่งขันตามเป้าหมาย Green ไทยลีก ในก้าวต่อๆ ไป”ทางด้าน นายฮิโรมิตสึ ทาคากิ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด อธิบายเสริมว่า “จากการทำงานร่วมกับ AIS ในการนำขยะ E-Waste เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้องแบบ Zero Landfill ตามมาตรฐานสากล ถือว่าสอดคล้องกับความตั้งใจของเราที่ต้องการกำจัดขยะทุกประเภทให้ถูกต้องและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เรารู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง AIS และไทยลีกในครั้งนี้ เพราะจะเป็นการทำให้เห็นถึงประโยชน์ของการรีไซเคิลที่สามารถนำทุกส่วนของขยะกลับมาสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นได้อีกครั้ง สำหรับ เหรียญรางวัลจากวัตถุดิบรีไซเคิลที่ได้จาก E-Waste โดยโรงงาน DOWA ที่ประเทศญี่ปุ่นนี้ ได้ส่งแร่ธาตุ คือ เงิน และ ทอง ไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหรียญเกียรติยศ ด้วยเทคโนโลยีเดียวกับการผลิตเหรียญรางวัลที่ใช้ในมหกรรมกีฬาระดับโลก อีกทั้งตัวเหรียญจะบรรจุอยู่ในกล่องที่ผลิตจากวัสดุกระดาษลูกฟูก ผสมกระดาษรังผึ้ง จึงนับว่าเหรียญรางวัล E-Waste มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน”โดยแฟนบอลชาวไทย สามารถมีส่วนร่วมและแสดงพลังเพื่อทีมที่รักได้ง่ายๆ กับการทำเหรียญรางวัลจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ สู่เหรียญรางวัลเกียรติยศในการแข่งขันฟุตบอล รายการ รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ทั้งสองรางวัล ได้แก่ “Football Club E-Waste Challenge Award” ซึ่งจะมอบให้แก่สโมสรที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรม ที่มีจำนวนขยะผ่านการฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กับ AIS ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง พาวเวอร์แบงก์ แบตเตอรี่มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กอื่นๆ มากที่สุด ก่อนจบฤดูกาลช่วงกลางปีนี้ และ รางวัล “Football Club Green Ecosystem Award” เป็นรางวัลที่มอบให้กับสโมสรที่มีผลงานด้านสิ่งแวดล้อมรวมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้โดดเด่นเป็นรูปธรรมแฟนบอลชาวไทยสามารถ ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ ได้ที่ถังรับฝากทิ้ง ณ สนามเหย้าของสโมสรในไทยลีก 1 ทั้ง 16 สนามทั่วประเทศได้แล้วตั้งแต่วันนี้- 31 พฤษภาคม 2565 อีกทั้งยังสามารถฝากทิ้ง E-Waste กับพี่ไปรษณีย์ และที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ ได้ฟรี โดยนำ E-Waste ใส่กล่อง และเขียนหน้ากล่องว่า ฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมใส่ชื่อสโมสรที่ตนชื่นชอบไว้ที่หน้ากล่อง เพื่อนำไปรวบรวมเพื่อทำเหรียญรางวัลต่อไป
นอกจากนี้จัดให้มีการ live สดการแข่งขันกว่า 50 คู่ ทั้งระบบลีกและระบบน็อกเอาต์ ซึ่งจะทำการแข่งขันนัดเปิดสนาม ในวันพุธที่ 20 เม.ย. ระหว่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบกับ ม.ธรรมศาสตร์ ที่สนามม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก โดยติดตามได้ทางเพจ : CHANG U-CHAMPION CUP
อย่างไรก็ตามล่าสุดทาง โอเลก สคิร์ตา โค้ชของเจ้าตัวได้ออกมายืนยันแล้วว่า ยอดนักสู้รายนี้ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่เขาเข้าร่วมต่อสู้ป้องกันเมืองมาริอูโปล ร่วมกับหน่วยกองกำลังพิเศษของยูเครนเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 ที่สนาม ภายในสมาคมฟตบอลยูเออี ฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงทำการฝึกซ้อมเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมพบกับทีมชาติอิรัก ในนัดสุดท้ายของดูไบ คัพ สำหรับก่อนหน้านี้ ทีมชาติไทย แพ้ให้กับ ทีมชาติกาตาร์ 0-1 และ แพ้ ทีมชาติจีน 2-4
ล่าสุด “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย เดินทางมาให้กำลังใจขุนพล ช้างศึก ด้วยตัวเอง พร้อมเพิ่มขวัญ และ กำลังใจให้ผู้เล่นทั้ง 27 ราย ประกาศมอบเงินให้คนละ 50,000 บาท หากเก็บชัยชนะในเกมอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัด ที่เตรียมพบกับ เนปาล และ ซูรีนาม ซึ่งมีผลต่อคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง รวมเป็นเงิน 1,350,000 บาทถ้าเมื่อไหร่เราไม่เล่นตามแบบที่เราต้องการ จะไม่มีการพัฒนาแน่นอน ผมยังคงยืนยันว่าจะยังคงคอนเซ็ปท์เหมือนเดิม อย่างครึ่งหลังเห็นได้ชัดว่ามันดีขึ้น อาจด้วยหลายๆ คนเป็นเกมแรกในการเล่นนานาชาติ ด้วยความมั่นใจอะไรต่างๆ ผมคิดว่าข้อผิดพลาดตรงนี้แก้ได้ แต่ที่สำคัญคือแนวทางการเล่น ผมว่ามันดูชัดเจนขึ้น ผมว่าจริงๆ ฟุตบอลมีพลาดได้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือเราได้เจอเกมอุ่นเครื่องหรือเจอทีมที่มีศักยภาพเท่าเราผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ผมว่าเด็กได้ประสบการณ์ในครั้งนี้ ถ้าเราเปลี่ยนวิธีการเล่นจะไม่ได้ประโยชน์แน่นอน เรามาที่นี่เราไม่ได้หวังผลการแข่งขัน แต่สิ่งที่เราหวังคือประสบการณ์กับวิธีการเล่นแนวทางการเล่น คนที่ผมคิดว่านักเตะที่เล่นดีน่าจะเป็น หนึ่ง (ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว) ที่ชัดเจนเลยคือสภาพร่างกาย แต่คนอื่นต้องยอมรับว่าสภาพร่างกายมีปัญหามาก ที่ทีมชาตินั้นมีเวลาน้อย เพราะฉะนั้นตอนที่เด็กๆ อยู่สโมสรผมว่าต้องดูแลตัวเองมากๆ ซึ่งสำคัญมาก เพราะจะเห็นว่าพอเกมสอง จะเห็นว่าหลายๆ คนเริ่มดร็อปลง ระบบกล้ามเนื้อความแข็งแรงเริ่มน้อยลง เพราะเกมระดับเอเชีย ถ้าระบบร่างกายไม่ดี แมตช์ที่สองที่สามจะแผ่วลงไปอีก